วิธีการรับข่าวสารและข้อมูลผ่าน RSS

RSS หรือ Really Simple Syndication คือ บริการข้อมูลที่พัฒนาจากภาษา XML เพื่อส่งข่าวหรือเนื้อหามาแสดงบนที่หน้าเว็บเบราวเซอร์ ตัวอ่าน RSS หรือการรับ RSS ส่งมายังโปรแกรมอีเมล์ ข้อมูลที่ลิงค์กับไปอ่านข่าวหรือเนื้อหานั้น ๆ

ประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการรับ RSS ไปติดตั้งในเว็บเบราวเซอร์ ตัวอ่าน RSS หรือโปรแกรมอีเมล์ของคุณ คือ คุณสามารถติดตามข่าวและข้อมูลข่าวสารได้ทันที เมื่อมีข่าวและเนื้อหาใหม่จากหมวด RSS ที่คุณเลือกสัญลักษณ์ RSS

เบราวเซอร์ส่วนมาก เช่น Mozilla Firefox และ Internet Explorer จะรองรับค่าจาก RSS Feed เมื่อคุณคลิกที่สัญลักษณ์ RSS เบราว์เซอร์จะแสดงปุ่มหรือลิงค์ให้ “สมัคร หรือ Subscribe” (แล้วการเลือกตั้งภาษาหรือชนิดของเบราว์เซอร์) เมื่อคุณคลิกแล้ว แล้วเบราวเซอร์จะจดจำค่า RSS ข่าวและเนื้อหาที่อัพเดทผ่าน RSS ก็จะแสดงที่หน้าเบราวเซอร์ของคุณทันที หากคุณไม่เห็นข้อมูลจาก RSS คุณต้องไปที่เมนู “มุมมอง” “View” (หรือเมนูใดๆ ที่มีฟังก์ชั่นเกี่ยวกับการปรับแต่งหน้าเบราว์เซอร์ที่คุณใช้) เพื่อเลือก Feed เมนู

การสมัครรับ RSS ในเว็บไซต์คอมูนิตี้หรือเว็บไซต์ Social Network

ผู้ให้บริการบล๊อค และ Social Network อย่างเช่น Facebook Ning ต่างก็ทำฟังก์ชั่นให้เจ้าของบล๊อคหรือเจ้าของโปรไฟล์ Social Network ตั้งค่ารับ Feed ได้เช่นกัน วิธีการก็แตกต่างกันไป แต่หลักการจะเหมือนกัน คือ คุณต้องเข้าที่เมนูที่ให้ข้อมูลเกี่ยววิธีการรับ RSS จากนั้น คุณก็สามารถกรอก URL หมวด RSS ที่คุณเลือก เพื่อเพิ่มการรับ RSS ก็เป็นอันเสร็จสมบรูณ์ เมื่อใดที่คุณเข้าหน้าเว็บบล๊อค และ Social Network คุณจะได้อ่านพาดหัวข่าวและบทความที่อัพเดทที่หน้าเว็บของคุณ และคุณก็สามารถคลิกลิงค์เข้าสู่เว็บไซต์เพื่ออ่านข่าวหรือบทความนั้นได้ทันที

การสมัครรับ RSS Feed ใน RSS Reader หรือโปรแกรมอีเมล์

โปรแกรม RSS Reader ในปัจจุบันมากมายบนคอมพิวเตอร์และในมือถือ ทั้งในชนิดที่ติดตั้งมากับเครื่องของท่านหรือคุณดาวน์โหลดเพื่อดิดตั้งเพิ่มเติม เช่น RSS reader เป็นต้น นอกจากนั้น โปรแกรมอีเมล์ที่คุณใช้งานทุกวัน เช่น Microsoft Outlook หรือ Mozilla Thunderbird ก็สามารถรับแค่ RSS ได้ โปรแกรมที่เขียนไปข้างต้นนั้น จะมีเมนูที่คำว่า “Feed” หรือคำที่ใกล้เคียงแล้วแต่ชนิดของโปรแกรม คุณสามารถกรอก URL หมวด RSS ที่คุณเลือก เพื่อเพิ่มการรับ RSS ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

การนำ RSS มาใช้ใน Marketing Online

ระบบ RSS Feeds เป็นรูปแบบการนำเสนอข่าว บทความ หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ในหน้าเว็บไซต์คุณ ให้อยู่ในรูปแบบมาตราฐาน Rss 2.0 เพื่อให้ผู้ที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสารใหม่ๆได้ทันที เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ โดยส่งข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ให้ถึงเครื่องตลอดเวลาที่มีการ Update ไม่ต้องเสียเวลาเปิดเว็บไซต์เข้ามาค้นหา

จุดเด่นของ RSS คือ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเข้าไปตามเว็บไซต์ เพื่อดูว่ามีข้อมูลอัพเดทใหม่ๆ ขณะที่เว็บไซต์แต่ละเว็บอาจมีระยะความถี่ในการอัพเดท ไม่เท่ากัน บางครั้งผู้ใช้อาจเข้าไปดูเนื้อหาอัพเดทใหม่บนเว็บไซต์ไม่ครบถ้วน รูปแบบ RSS จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามข่าวสารอัพเดทใหม่ได้ ผ่านการ Subscribe ซึ่ง Browser ในปัจจุบันรองรับหมดแล้ว ซึ่งแนวทางในการนำ RSS มาใช้ใน Marketing Online มีดังนี้

1.) นำเอา RSS มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดในการนำเสนอข้อมูลล่าสุดส่งถึง Desktop ของลูกค้า โดยความฉับไว โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเพียงบทความหรือบันทึกที่อยู่บนบล็อกเท่านั้น ข้อมูลอื่นๆ เช่น ปฏิทินกิจกรรม ข่าวสารของบริษัท เอกสารแนะนำสินค้าใหม่ บทความที่น่าสนใจ เป็นต้น

2.) RSS เพิ่มความสะดวกในการติดตามการเคลื่อนไหว ข่าวคราวใหม่ ๆ RSS เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มช่องทางการสื่อสาร ทั้งนี้ยังมีลูกเล่นและ Interface ที่ช่วยให้ดึงดูดความสนใจแก่ลูกค้า ทำให้ลูกค้าเห็นถึงความง่าย ความสะดวก เพราะ RSS มีการ Update ข้อมูลตามเวลาที่กำหนด อ่านข้อมูลได้ง่าย โดยผ่าน web browser

3.) สามารถนำไปประยุกต์ด้านธุรกิจแชร์ข้อมูลออนไลน์ได้ จะเป็นเว็บไซต์ที่เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข่าวออนไลน์ โดยมีการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ลงฐานข้อมูล จะแยกข่าวออกเป็นหมวด ๆ แล้วเขียนโครงสร้าง RSS เพื่อให้ผู้ทำเว็บเข้ามาดึงหัวข้อข่าว แล้วบอกลิงค์ไฟล์ที่ให้บริการ RSS

4.) ในปัจจุบันการนำ RSS มาใช้ใน Marketing Online อย่างแพร่หลายและในอนาคตมีแนวโน้มว่า การใช้ RSS ใน Marketing Online นั้นสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคในการได้รับข้อมูลข่าวสารที่ต้อง Update อยู่ตลอดเวลาเพื่อการแข่งขันกันทางธุรกิจ อย่างเช่นในส่วนผู้ที่เป็นสมาชิกจะมีเนื้อที่ส่วนตัวเพื่อเขียนข่าวหรือบทความของตนเอง ทำให้ทราบว่าสมาชิกสนใจเรื่องใด จะได้เสนอขายสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า

5.) ในการนำ RSS มาใช้ใน Marketing Online ผ่านทางหน้าเว็บไซต์เราสามารถดึงข่าวผ่าน RSS ได้โดยง่ายเพียงนำลิงค์ของหัวข้อข่าวที่เราสนใจ ไปติดที่เว็บไซต์ของเราผ่านโปรแกรมดึงข่าวต่าง ๆ ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับ Mambo , PHP-Nuke , Weblog ต่าง ๆ ได้ทันที

RSS ถูกนำมาประยุกต์ใช้โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการแชร์ข้อมูล

RSS ช่วยลดข้อจำกัดในการคัดลอกข้อมูลในเว็บไซต์โดยเฉพาะกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ ขณะที่ผู้สร้างไม่ต้องเสียเวลาทำหน้าเพจแสดงข่าว ซึ่งต้องทำทุกครั้งเมื่อต้องการเพิ่มข่าว โดย RSS จะดึงข่าวมาอัตโนมัติ ทำให้ข้อมูลบนเว็บไซต์เป็นศูนย์กลางมากขึ้น ปัจจุบัน RSS ถูกนำมาประยุกต์ใช้เป็นรูปแบบกลางในการบริการข้อมูลทางธุรกิจและมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการแชร์ข้อมูล เช่น เว็บไซต์ข่าว เว็บล็อก ซึ่งจะมีการแสดงข้อมูลบนหน้าต่างพรีวิวแยกต่างหากเพื่อให้ผู้ใช้ไม่สับสน รวมถึงสามารถสืบค้นข้อมูลได้

จุดเด่นของ RSS

คือผู้ใช้จะไม่จำเป็นต้องเข้าไปตามเว็บไซต์ต่างๆเพื่อดูว่ามีข้อมูลอัปเดทใหม่หรือไม่ ขณะที่เว็บไซต์แต่ละแห่งอาจมีระยะความถี่ในการอัปเดทไม่เท่ากัน บางครั้งผู้ใช้ยังอาจหลงลืมจนเข้าไปดูเนื้อหาอัปเดทใหม่บนเว็บไม่ครบถ้วน รูปแบบ RSS จะช่วยให้ผู้สามารถรับข่าวสารอัปเดทใหม่ได้โดยไม่ต้องเข้าไปดูทุกครั้งให้เสียเวลา ได้ประโยชน์ทั้งฝ่ายผู้บริโภคและฝ่ายเจ้าของเว็บไซต์ RSS นำมาใช้สำหรับการแบ่งปันหัวเรื่อง ข้อมูลบนเว็บระหว่างเว็บด้วยกัน หรือสำหรับดึงข่าวจากเว็บต่างๆ มาแสดงบนเว็บของคุณ ซึ่งแต่ก่อนอาจมีการสร้างหัวเรื่องของข่าวจากเว็บต้นแบบ จากนั้นนำลิงค์ไปติดที่หน้าเว็บของเรา การแก้ไขถ้าเว็บต้นแบบแก้ไข เว็บของเราจะต้องทำการแก้ไขตามด้วย

ในปัจจุบัน RSS เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในเว็บไซต์ต่างประเทศ

เช่น Google, Yahoo!,CNet และเว็บไซต์ขององค์กรต่างๆ อีกมากมาย เกือบทุกองค์กร หรือหน่วยงาน ที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ข่าว จะมี RSS เพื่อบริการแล้วทั้งสิ้น สามารถสังเกตได้ที่หน้าเว็บไซต์จะพบสัญลักษณ์ RSS ซึ่งวิธีนำไปใช้งานผ่านทางหน้าเว็บไซต์สามารถดึงข่าวผ่าน RSS ได้โดยง่ายเพียงนำ Link ของหัวข้อข่าวที่สนใจไปติดที่เว็บไซต์ผ่านโปรแกรมดึงข่าวต่างๆ ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับ Mambo, PHP-Nuke, Weblog ต่างๆได้ทันที ผ่าน RSS reader

เทคโนโลยีของ RSS

ทำให้คุณสามารถรับข่าวสารจากเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารในรูปแบบRSS ซึ่งตามปกติแล้วเว็บไซต์เหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มเติมเนื้อหาบ่อยๆ หากคุณต้องการใช้เทคโนโลยีนี้ คุณต้องติดตั้งโปรแกรมรวมกลุ่มข่าวสารไว้ด้วย โดยหลักการของโปรแกรมลักษณะนี้ก็คล้ายกับโปรแกรมรับอีเมลนั่นเอง หลังจากนั้นก็เพียงไปลงทะเบียนรับข่าวสารจากเว็บไซต์ต่างๆที่ให้บริการRSS ซึ่งบริการเหล่านี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ข้อมูลที่ได้จะเป็นเพียงหัวข้อข่าว หรือรายละเอียดโดยย่อเท่านั้น ส่วนเนื้อหา หรือข้อความหลักของข่าวนั้นก็จะมีลิงก์เชื่อมโยงไปให้อีกทีหนึ่ง