ขั้นตอนการเริ่มต้นทำ SEO อย่างไร

การทำการตลาดออนไลน์ก็สามารถนำรับทํา SEO มาประยุกต์ใช้เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น การที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีตัวตนมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ SEM ?

SEM ย่อมาจาก Search Engine Marketing ตัวอย่าง SEM ที่เห็นได้ชัดคือ Google Ads ขึ้นชื่อว่า Ads ก็คือการซื้อพื้นที่เพื่อโฆษณา แถมยังต้องทำ banner เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ของเรา ซึ่งอาจจะเสียเงินค่าโฆษณา ค่าออกแบบ banner แต่ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกได้ง่ายขึ้น

ต่างกับรับทำ SEO ที่ไม่จำเป็นต้องโฆษณาใดๆ แต่จะใช้เวลาค่อนข้างนานเพื่อที่จะให้ Search Engine นั้นเห็นเว็บไซต์ของเราและพิจารณาเพื่อติดอันดับให้ แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต่นว่าการทำ SEO นั้นไม่จำเป็นต้องลงทุนใดๆ จึงทำให้ SEO ค่อนข้างที่จะยั่งยืนกว่า

SEO จำเป็นไหม ควรเริ่มทำตอนไหนดี

มีสถิติบอกว่าคนไทยเสิร์ช Google มากถึง 3 ล้านครั้งต่อวัน ดังนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่า SEO นั้นจำเป็นมากในการทำการตลาดออนไลน์ในปี 2022 นี้ และ SEO นี้ยังมีความสำคัญมากกว่า Social Media อีก เพราะบนโซเชียลมีเดีย เราอาจจะเคยเห็นร้านออนไลน์มาเยอะ แต่ก็มีหลายร้านที่ไม่ได้คุณภาพ ตรงนี้แหละที่ทำให้รับทำ SEO มีบทบาท เพราะเมื่อลูกค้าไม่แน่ใจว่าจะเช็กเครดิตหรือความน่าเชื่อถือยังไง ก็จะมาเสิร์ชบน Google ซ้ำอีกทีเพื่อความแน่ใจ อีกทั้งการที่เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ก็จะช่วยให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

แล้วควรเริ่มทำ SEO ตอนไหน คำตอบก็คือ “ทันที” ที่เรามีเว็บไซต์ เพราะข้อมูลบนโลกออนไลน์เคลื่อนไหวอยู่ตลอด 24/7 หรือไม่มีวันหยุดแม้แต่วินาทีเดียว การเริ่มรับทํา SEO ให้ได้เร็วที่สุด ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจปกระสบความสำเร็จได้ไวขึ้น

การทำ SEO มีขั้นตอนดังนี้

– Indexing หลังจากการทำ Crawling เพื่อให้ได้ data มาจนทราบว่าแต่ละเว็บไซต์ทำเกี่ยวกับอะไร และเชื่อมโยงกับ keyword ใดบ้าง ก็จะถูกนำมารวมกันเป็นฐานข้อมูลหรือเรียกว่า indexing ผ่าน algorithm ของ Google

– Serving Ranking หลังจากที่ indexing ได้เก็บรวบรวมข้อมูลทั้ง data keyword และเว็บไซต์แล้ว กระบวนการถัดมาก็คือ Serving & Ranking วิเคราะห์ว่าข้อมูลใดหรือ keyword ใดจะถูกนำมาใช้งานกับเว็บไซต์ใด ตอนไหน เป็นต้น หลังจากที่เริ่มการค้นหา Google ก็จะนำ Keyword มาเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ที่ถูกเก็บข้อมูลไว้มา list ลงบนผลลัพธ์การค้นหา โดยมี Search Engine Algorithm มาช่วยจัดลำดับผลการค้นหาเว็บไซต์ ซึ่งจะต้องมี keyword ที่ตรงกับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://seo.z.com/th/